เอ็นพีเอการบัญชี

พุทธพยาการณ์เกี่ยวกับพระพุทธมารดา


พุทธพยาการณ์เกี่ยวกับพระพุทธมารดา

#พุทธพยาการณ์เกี่ยวกับพระพุทธมารดา

#พระพุทธเจ้าประสูติ ได้ 7 วัน พระนางสิริมหามายามารดาก็สิ้นพระชนม์ พระเจ้าสุทโธทนะจึงอภิเษกพระนางปชาบดีโคตมีเป็นชายา เป็นแม่นมเลี้ยงเจ้าชายสิทธัตถะมาตั้งแต่เด็ก

พระนางปชาบดีโคตมิตั้งใจนำผ้าสาฎก ที่ทออย่างประณีตใส่ผอบแก้วถวายพระพุทธเจ้า แต่พระพุทธเจ้าไม่รับ โดยตรัสให้ไปถวายคณะสงฆ์จะได้กุศลมากกว่า นางจึงถวายแด่พระที่อยู่ใกล้ชิดพระพุทธเจ้า คือพระสารีบุตร ท่านก็ไม่รับ ขยับไปหาพระโมคคัลลานะ ท่านก็ไม่รับ ถวายไปเรื่อยๆ ก็ไม่มีใครรับ จนถึงพระภิกษุใหม่นามว่า อชิตะ ที่นั่งอยู่ท้ายสุด พระอชิตะก็รับผ้านั้นทันที

พระนางปชาบดีเห็นเช่นนั้น ก็เกิดโทมนัสเสียพระทัย พระพุทธเจ้าทราบเช่นนั้น จึงหาวิธีที่จะช่วยให้นางคลายโทมนัส ด้วยการบอกให้พระอานนท์ไปนำบาตรของพระองค์มา แล้วยื่นพระหัตถ์ให้บาตรนั้นลอยขึ้นไปบนฟ้า และบอกกับสาวกทั้งหมดว่า ให้ไปนำเอาบาตรนั้นมา พระสารีบุตรก็เหาะเหินไปในอากาศด้วยอิทธิฤทธิ์ แต่ก็ไม่พบ พระโมคคัลลานะได้ชื่อว่ามีฤทธิ์มากที่สุด เหาะตามหาก็ไม่พบ  ไม่มีสาวกองค์ใดหาบาตรนั้นได้ จนพระพุทธเจ้าตรัสสั่งให้พระอชิตะให้แสดงความสามารถไปนำเอาบาตรทรงของตถาคตมา

พระอชิตะซึ่งบวชใหม่กล่าวว่า แม้พระสาวกทั้งหลายยังไม่สามารถนำบาตรมาได้ แล้วพระใหม่ที่ยังไม่ได้บรรลุแม้โสดาบัน ไม่มีอิทธิฤทธิ์อันเกิดจากอภิญญาฌานสมาบัติจะนำบาตรมาถวายได้อย่างไร แต่เมื่อพระอชิตะตั้งจิตอธิฐานว่า ตนเองก็พยายามรักษาศีล ประพฤติพรหมจรรย์มิให้ด่างพร้อย ด้วยเดชบุญแห่งความดีนี้ ขอบาตรจงมาประดิษฐานในหัถต์ในบัดนี้ด้วย

ทันใดนั้น บาตรก็ตกลงมาใสหัตถ์ของพระอชิตะ พระพุทธเจ้าตรัสเป็นพุทธพยากรณ์ว่า พระอชิตะภิกษุ จะได้ตรัสรู้เป็นพระศรีอริยเมตไตรย์ในอนาคตกาลภายในภัทรกัปนี้ พระนางปชาบดีโคตมะได้เห็นเช่นนั้น ก็ทรงหายโทมนัส
 
ภายหลังจากที่พระองค์ได้รับพุทธทำนายจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคตมแล้ว เมื่อพระองค์จุติจากพระชาตินี้แล้วก็ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิต นามว่า นาถเทวเทพบุตร รอเวลาจะลงมาเกิดและตรัสรู้ในกาลต่อไป  พระโพธิสัตว์ที่รอมาเกิดจะอยู่ที่สวรรค์ชั้นดุสิต พระนางสิริมหามายา ซึ่งปวารนาตนว่า ขอให้เกิดเป็นพระมารดาของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระนางก็จะมาเกิดเป็นแม่ของพระศรีอริยเมตไตรย์อีกด้วย